Uwell “KOKO Prime” Review
: “แตกต่างไม่แตกใน / การกลับมาที่สมบูรณ์แบบ”
INTRO
จั่วหัวแบบนี้ หลายคนอาจคิดว่าเจ้านี่มันดีกว่า Caliburn G เป็นแน่แท้ แต่เปล่าครับมันเหมือนกันชนิดแค่เปลี่ยนทรงเลยก็ว่าได้
อ้าว!! แบบนี้ทำไมถึงบอกว่านี่คือการกลับมาที่สมบูรณ์แบบ แล้วถ้าแค่เปลี่ยนทรง มันจะเกิดผลดีอะไร
ไม่ต้องห่วงครับในรีวิวนี้มีเฉลยแน่ ว่าเจ้าแป้นแบน KOKO Prime ทำให้ผมคาราวะทางผู้ผลิตเรื่องอะไร
แต่สำหรับใครที่ชอบอ่านรีวิวซึ่งผมปรุงแต่งอย่างละเอียด เชิญท่านละเมียดอาหารจานด่วน ตรงนี้แทนครับ
PROS |
- คอยล์อร่อยมาก เก่งมาก ดีมาก ชอบใจ - ดีไซน์ทันสมัยสะใจวัยรุ่นแน่นอน - เซนเซอร์สูบอัตโนมัติยังดีอยู่ รูลมก็ดีอยู่ - พกง่าย งานประกอบดี ต่อให้เป็นพลาสติกก็ไม่รู้สึกถูก - ฟีลสูบที่ทำให้สาวกรู้สึกดี กลับมาอยู่มาในตัวนี้แล้ว |
CONS |
- คอยล์ในกล่องนั้นหวานน้อยกว่าตัวG - ระบบเติมน้ำยาแบบดึงปากสูบนั้น ดึงยากและไม่เหมาะกับช่วงโควิด - ไม่มีระบบดันไฟ แบตใกล้หมดเมื่อไหร่อ่อนแรงลงชัดเจน - ระบบปรับรูลมไม่ได้แตกต่างขนาดนั้น |
Inside the Box
- 1 x ตัวเครื่อง KOKO Prime (แบต 690mAh)
- 1 x ตัวพอด KOKO Prime ความจุ 2ml
- 1 x FeCrAL 1.0Ω Coil
- สาย USB cable C
- สายคล้องคอ
- คู่มือการใช้งาน
Design
ความสวยงามและวัสดุ :
แสบซ่า ฉูดฉาด ขนาดพริตตี้ชงเหล้ายังไม่กล้าเทียบความเปรี้ยว ขอแสดงความยินดีกับทางค่าย รอบนี้จ้างคนออกแบบได้ดีกว่ารอบที่แล้ว ทำเอาใครที่เคยมองข้ามรุ่นก่อนหน้าเพราะรู้สึกว่าไม่สวย เจอไลน์อัพปีนี้เข้าไป ถูกใจแน่นอน
ดีไซน์นั้นเล่นการแสปลชเฉดสีเต็มที่ แตกต่างจากรุ่นGที่เน้นเรียบหรู ส่วนวัสดุนั้นเป็นพลาสติก แต่ทำผิวออกมาดูดี ไม่มีความรู้สึกว่าเครื่องนี้วัสดุดูไม่แพงแต่อย่างใด และสามารถเปลี่ยนกรอบลายข้างเครื่องได้ด้วย ใครที่รวยก็สั่งซื้อมาเปลี่ยนได้
ขนาดและสัมผัส :
ขนาดพกง่าย น้ำหนักเบา ห้อยคอ ห้อยพุง ห้อยตรงไหนก็ไม่รู้สึกถ่วง ขนาดใส่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาเด็ปยังรู้สึกว่าพกสะดวกเลย
ส่วนสัมผัสนั้นไม่ได้เย็นลื่นเหมือนโลหะทั้งชิ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดใจ ถึงส่วนตัวจะนิยมแบบหนังนิ่มๆผสมโลหะมากกว่าก็ตามที
หน้าจอและที่ใส่ถ่าน :
ไม่มีหน้าจอให้ชมเชย มีแค่ไฟหนึ่งดวงไว้บอกสถานะ ซึ่งมันจะบอกแค่สามช่วง คือตอนแบตเหลือเยอะ เหลือกลางๆ กับเหลือนิดเดียว ถ้าเหลือนิดเดียวก็แนะนำว่าชาร์จได้เลยครับ แรงไฟมันอ่อน
สำหรับที่ชาร์จนั้นอยู่ที่ตูด เป็นพอร์ท Type C ดังนั้นต้องวางตะแคงขณะชาร์จนะจ๊ะ
ตัวเครื่องมีมาให้เลือก6สี โฉบเฉี่ยวเฟี้ยวสดใส
ตัวพอดและปากสูบ : ขอยกที่วิจารณ์ตัวGมานะครับ เพราะว่ามันคืออันเดียวกัน
ปากสูบทรงแบน สูบง่าย อันนี้ไม่มีอะไรให้กล่าวถึงมากนัก ที่จะกล่าวถึงแบบติติง ซึ่งนอกจากผมแล้ว น้องคนอื่นๆที่ใช้ก็บ่นเหมือนกัน นั่นก็คือช่องเติมน้ำยา เพราะยังคงเอกลักษณ์เดิม คือต้องหักปากสูบออกมาก่อนจึงจะเติมได้ แล้วปากสูบเองนี่นะบางทีก็หักยากใส่ยากจนผมกัดฟันกรอดๆ น่าจะทำจุกเติมน้ำยาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยมากกว่า ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่านี่คือช่วงโควิดครับ บางเรื่องไม่ต้องคงเอกลักษณ์ก็ได้ ผมมียายจ๋าให้ต้องดูแลนะ
ย้ำอีกครั้งว่า รุ่นนี้ไม่มีรูเติมน้ำยานะจ๊ะ ต้องหักที่ส่วนหัวปากสูบให้แยกจากพอด รูเติมน้ำยาอยู่ใต้นั้นแหละ
แต่คอยล์คราวนี้เป็นแบบถอดเปลี่ยนแล้วนะ เดาว่าคงเตรียมรับกับคอยล์รุ่นใหม่ๆที่จะครีเอทมาขาย
Functions
- แบตเตอรีนั้นบอกสถานะดังนี้ ไฟสีเขียว คือแบตมากกว่า60%ขึ้นไป / ไฟสีฟ้า คือแบตอยู่ช่วง30-60% / ไฟสีแดง คือแบตอยู่ต่ำกว่า30%
Performance
“ความเหมือนที่แตกต่าง แต่ไม่แตกใน” ไส้ใน / คอยล์ / พอด ทั้งรุ่น KoKo Prime กับ Caliburn G นั้นเป็นตัวเดียวกันเป๊ะๆ เรียกได้ว่ามีแค่ภายนอกที่ไม่เหมือนกัน คือถ้าซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่งไปแล้ว หากไม่ใช่นักสะสมก็ไม่จำเป็นต้องซื้ออีกรุ่นครับ ยกเว้นทำอันเก่าพัง
“แบบนี้แสดงว่าก็ใช้งานได้ดีเหมือนกัน” อ้าว มันจะต่างกันได้ไงล่ะครับ
“แล้วมันดียังไงวะ” ก่อนอื่นก็มีเรื่องฟีลสูบครับ คอยล์ที่แถมมาในกล่องตัวนี้ ให้ฟีลสูบใกล้เคียงกับรุ่นปีก่อนหน้ามากกว่า คือฟีลใกล้กันเลย และถึงฟังก์ชันจะไม่ได้หลากหลาย แต่รสชาติค่ายนี้เอาอยู่จริงๆ คือมันยิงไฟดี กลิ่นชัด และหวานฉ่ำเช่นเดิม ไม่ด้อยกว่าค่ายไหนแน่นอน
ทั้งนี้มันใช้คอยล์ร่วมกับตัวGได้ด้วยนะครับ ดังนั้นแค่ซื้อคอยล์ตัวนี้ปุ๊บ จะใช้ Prime หรือ G ก็จะค่าเท่ากัน
“ถ้าเหมือนตัวGขนาดนี้ ทำไมจั่วหัวว่า การกลับมาที่สมบูรณ์แบบ” ก็มีเรื่องคอยล์ที่รสชาติพัฒนา ทั้งคุณภาพและอายุทำได้ดีขึ้น อันนี้ก็เรียกได้ว่าเยี่ยมแล้ว
แต่ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ คือการตลาดของทางค่ายครับ ถ้าหากทำดีไวซ์เกรดเทพออกมาทรงเดียว ก็อาจเสียลูกค้าที่ไม่ชอบทรงแท่ง ไม่ชอบความเรียบคลาสสิค แต่อยากได้อะไรที่ดูสนุกกว่าถูกไหม ดังนั้นค่ายนี้เลยใช้วิธีพัฒนาดีไวซ์ที่โคตรเทพออกมาเลยตัวนึง แต่เปลี่ยนดีไซน์ไงล่ะครับ ทีนี้ก็ได้รวบลูกค้ากลุ่มใหญ่ขึ้น
“ค่ายอื่นก็ทำนี่หว่า เปลี่ยนแค่ดีไซน์” ใช่ครับ แต่เดี๋ยวพอแฟนคลับรุ่นเก่าเอย นักสูบหน้าใหม่ที่เห็นรีวิวชมเอย แห่กันมาอุดหนุนแบบรอบที่แล้ว พวกเขาก็จะมีตัวเลือกเตรียมไว้ให้เลยไงล่ะ ผมว่าUwellฉลาดมากที่ทำแบบนี้เตรียมไว้เลย พี่เขาคงกะให้การกลับมาวางขายรอบนี้สมบูรณ์แบบทั้งการใช้งาน และการสร้างกำไรให้มากที่สุด
มาดูรีวิวคอยล์กันครับ
FeCrAL 1.0Ω Coil
ใครที่เคยบ่นว่าตัว 0.8 ของรุ่นG ฟีลมันหนีความแน่นกับตัวในตำนาน แนะนำให้เสียบคอยล์นี้เลยครับ ฟีลเดิมๆกลับมาแน่นอน สายMTLน่าจะชอบใจกันแน่แท้
ปริมาณควันที่เจ้านี่ผลิตมานั้น ถือว่าเยอะเกินตัวอยู่ครับ คือมันมองเห็นชัดและไม่รู้สึกน้อยกว่าพอดไซส์เดียวกันทั่วไป รู้สึกว่าสูบได้ปริมาณแน่นอน
ส่วนด้านรสชาตินั้น สายหวานอาจต้องพิจารณาครับ มันฉ่ำน้อยกว่าตัว0.8แบบรู้สึกได้ ก็แน่นอนล่ะว่าด้วยการเป็นลวดขด จะให้กระจายรสแบบลวดตาข่ายรุ่นนั้นคงไม่ไหว แต่ทั้งนี้ไม่ใช่จะไม่อร่อยนะครับ มันยังดีมากอยู่ กลิ่นองุ่นของGureppuที่สูบยังมาครบ แค่มันไม่ได้หวานกระจายทั่วลิ้นแบบ0.8ก็เท่านั้น แต่ซู๊ดเข้าปอดไปก็ยังได้ทั้งความอิ่มกับความอร่อยครับ
ใครที่ชอบความแน่นมากกว่าลองตัวนี้ไปก็ไม่ผิดหวังหรอก ถือว่าหักลบรสนิดนึงเพื่อฟีลที่ตึบขึ้น ประเด็นคือผมเป็นสายDLครับ เลยเน้นที่รสมากกว่าความแน่น
Verdict
“จวบจนสิ้นปี พอดนี้ติดท็อปชาร์ตแน่” ด้วยการที่ออกมาในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ทางUwellคงกะขายยาวๆแบบเดิมแน่นอนครับ แล้วผมยืนยันได้เลยว่า คนจะยังยกให้มันเป็นสุดยอดดีไวซ์ยาวๆแบบก่อนหน้าเช่นกัน ชนิดที่หากไม่รู้จะแนะนำตัวไหนให้เพื่อนซื้อ ก็บอกไปว่าKoKo Primeนี่แหละ ไม่โดนด่าแน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจว่าจะต่างออกไปก็คือ มันจะไม่ได้เป็นโคตรเทพชนิดที่ใครๆก็ต้องใช้เป็นบรรทัดฐานอีกแล้วครับ เพราะเจ้าอื่นๆในตลาดพัฒนามาชนิดตีตื้นเรียบร้อยแล้ว
แต่อย่างที่บอกครับ ด้วยชื่อชั้นกับคุณภาพยังไงก็ยังขายดีแน่ เอาเป็นว่าหากคุณอ่านรีวิวนี้อยู่ แล้วอยากลองซื้อพอดสักตัว ช็อยซ์แรกที่ผมจะแนะนำแบบไม่ต้องห่วงว่าจะโดนด่ารึเปล่า ก็คงเป็นผลงานคุณภาพที่กลับมาสู่ตลาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ KOKO Prime นี่แหละครับ